10 เทรนด์เทคโนโลยีมาแรง พลิกโฉมโลกธุรกิจในอนาคต

ในยุคที่เทคโนโลยีไม่ใช่แค่ “เครื่องมือ” แต่คือ “ตัวกำหนดอนาคต” สวทช. เผย 10 เทคโนโลยีมาแรงแห่งปี 2568 ที่จะพลิกเกมธุรกิจ อุตสาหกรรม และวิถีชีวิตของเราแบบยกเครื่อง

จากเวที “Thailand Tech Show 2025” ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ศ.ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการ สวทช. เปิดเวทีด้วย “10 Technologies to Watch 2025” เทคโนโลยีแห่งอนาคตที่กำลังมาแรง และพร้อมพลิกโฉมทั้งธุรกิจ สุขภาพ และสิ่งแวดล้อม แบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่: พลังงานและสิ่งแวดล้อม, หุ่นยนต์–AI–ความปลอดภัยไซเบอร์, และสุขภาพ–การแพทย์ล้ำสมัย ที่จะตอบโจทย์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าเริ่มจากเทคโนโลยีแรก ได้แก่

 พลังงานและสิ่งแวดล้อม

1.ไฮโดรเจนสีฟ้าเทอร์คอยส์ (Turquoise Hydrogen)  ผลิตไฮโดรเจนจากก๊าซธรรมชาติแบบไร้คาร์บอน พร้อมได้ “ผงคาร์บอน” ใช้ต่อได้ ลดก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 99% และใช้พลังงานน้อยกว่าการผลิตไฮโดรเจนสีเขียว

2. เหล็กกล้ารักษ์โลก (Green Steel) ผลิตเหล็กด้วยพลังงานหมุนเวียนและไฮโดรเจนสีเขียว ลดการปล่อย CO₂ ต่อการผลิต 1 ตัน จาก 2,300 กก. เหลือเพียง 200–600 กก.

4. หุ่นยนต์ฮิวแมนอยด์ (Humanoid Robot)  เดินสองขา หยิบจับได้แม่นยำ เรียนรู้จากโลกเสมือน ตัวอย่างเช่น Optimus (Tesla) และ Atlas (Boston Dynamics)

5. Agentic AI  ปัญญาประดิษฐ์ที่คิด วางแผน และตัดสินใจเองได้ ใช้แล้วในการเงิน การธนาคาร และช่วยคนพิการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร

6. การเข้ารหัสลับหลังยุคควอนตัม (PQC)  ระบบเข้ารหัสทนทานต่อคอมพิวเตอร์ควอนตัม ป้องกันการถูกถอดรหัสในอนาคต ใช้แล้วโดย AWS, IBM, Google

สุขภาพและการแพทย์ล้ำสมัย

7. Smart Implants อุปกรณ์ฝังในร่างกายอัจฉริยะ ตรวจวัดและส่งข้อมูลสุขภาพแบบเรียลไทม์ เช่น เซนเซอร์น้ำตาลในเลือดแบบฝังอยู่ได้นาน 1 ปี

8. Epigenetic Technology  ตรวจสุขภาพระดับเซลล์ด้วย “นาฬิกาชีวภาพ” วิเคราะห์อายุชีวภาพจริง เพื่อวางแผนการดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคล

9. Longevity Cosmeceuticals เวชสำอางที่ชะลอวัยในระดับเซลล์ ลดเซลล์ชรา กระตุ้นการซ่อมแซมผิว เช่น ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทยของสตาร์ตอัป Krono-Life

10. แอนติบอดีจำเพาะแบบคู่ (Bispecific Antibody) แอนติบอดีที่มี “แขน” จับเป้าหมายต่างกันสองชนิด ช่วยดึงทีเซลล์มาโจมตีมะเร็งตรงเป้า และอาจใช้รักษา HIV ได้

สวทช. มั่นใจว่า 10 เทคโนโลยีดาวรุ่งจะเป็นเข็มทิศให้กับนักธุรกิจ นักลงทุน และผู้ประกอบการไทยเพราะการเลือกลงทุนใน เทคโนโลยีดาวรุ่ง ตั้งแต่เนิ่น ๆ อาจหมายถึงการได้ครองตลาดก่อนใคร ไทยพร้อมด้วยบุคลากร ความรู้ และโครงสร้างพื้นฐาน หากต่อยอดวิจัยสำเร็จ อาจกลายเป็น Game Changer พลิกเศรษฐกิจประเทศ
ประเทศไทยเองไม่ได้เริ่มจากศูนย์  เรามี บุคลากรวิจัยมืออาชีพ มี องค์ความรู้ และมี โครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่พร้อมต่อยอดจากห้องแล็บสู่เชิงพาณิชย์

ดังนั้น หากเทคโนโลยีเหล่านี้ได้รับการหนุนจากงานวิจัยไทย โอกาสที่เราจะเห็น “สตาร์ทอัพเทค” หรือ “อุตสาหกรรมใหม่” ที่เกิดจากฝีมือคนไทย ก็ไม่ใช่เรื่องไกลเกินจริง