Last updated: 17 มิ.ย. 2568 | 31 จำนวนผู้เข้าชม |
ท่ามกลางภูเขาและป่าเขียวที่เคยเงียบเหงาหลังเหมืองแร่ผาแดงหยุดกิจการ เสียงใหม่แห่งความหวังเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง เมื่อไบโอเทคนำองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์เข้ามาสานต่อการฟื้นฟูผืนป่าด้วยเทคโนโลยีการขยายพันธุ์ไม้ทรงคุณค่าแบบไม่ต้องรอเวลา
“เหมืองผาแดงโมเดล” ขับเคลื่อนฟื้นฟูป่า ด้วย BCG – เปิดเส้นทางท่องเที่ยวแห่งอนาคตสีเขียว
ณ พื้นที่ฟื้นฟูเหมืองผาแดง จังหวัดตาก จุดบรรจบระหว่างวิทยาศาสตร์ สิ่งแวดล้อม และพลังชุมชน กำลังเผยให้เห็นความงามของป่าที่จะฟื้นกลับมาอีกครั้ง ภายใต้การขับเคลื่อนของโครงการส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อการอนุรักษ์ฯ นำโดย นายกานดิษฏ์ สิงหากัน หัวหน้าโครงการฯ ซึ่งจับมือกับ สวทช. เดินหน้าโครงการ “ทบทวนการฟื้นฟูควบคุมและเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากของชุมชนในพื้นที่เหมืองผาแดง” ด้วยพลังแห่งโมเดล เศรษฐกิจ BCG ที่เน้นความยั่งยืนควบคู่การพัฒนาท้องถิ่น
จุดเด่นของโครงการอยู่ที่การพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีชุมชนผ่าน 9 โครงการย่อย เช่น การสร้างองค์ความรู้ด้านการเพาะปลูก ฟื้นฟูป่า และพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน เพื่อเริ่มต้นการส่งมอบ “อนาคตสีเขียว” เป็นแนวทางขับเคลื่อนป่าไปพร้อมกับชีวิตคนในพื้นที่
หนึ่งในนวัตกรรมจาก ไบโอเทค สวทช. คือการส่งมอบ “กล้าไผ่รวกใหญ่” กว่า 5,000 ต้น เพื่อฟื้นฟูป่าในพื้นที่เสื่อมโทรม และการใช้ Seed Balls จากพืชป่าหลากชนิด เช่น พะยูง ประดู่ป่า จามจุรีสีทอง และสาธร ซึ่งช่วยให้ต้นไม้เจริญเติบโตได้ดีแม้ในพื้นที่เข้าถึงยาก การฟื้นฟูเหมืองผาแดงไม่ใช่แค่เรื่องสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นจุดหมายปลายทางใหม่ของการท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้ นักเดินทางสามารถสัมผัสเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ลัดเลาะตามแนวป่าที่กำลังฟื้นตัว รู้จักพันธุ์ไม้ท้องถิ่นจากงานวิจัยจริง และเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีร่วมกับภูมิปัญญาชาวบ้านอย่างกลมกลืน เหมืองผาแดง กำลังกลายเป็นพื้นที่สาธิตการพัฒนาที่ยั่งยืนที่จับต้องได้ เป็นโมเดลใหม่ของการท่องเที่ยวที่ไม่ใช่แค่ถ่ายรูปกับธรรมชาติ แต่ได้เรียนรู้ ลงมือ และเข้าใจ “อนาคตสีเขียว” อย่างแท้จริง.
ดร.สิทธิโชค ตั้งภัสสรเรือง จากศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สวทช. เล่าให้เราฟังว่า “พันธุ์ไม้ที่ได้จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืชในห้องปฏิบัติการ ทำให้ได้กล้าไม้ที่มีคุณภาพดี สม่ำเสมอ ปลอดโรค สามารถวางแผนการปลูกได้แม่นยำมากขึ้น ส่งผลให้การฟื้นฟูรวดเร็วกว่าเดิม
Seed Balls ที่ดูธรรมดาแต่ไม่ธรรมดานี้ ได้บรรจุ "กล้าสมุนไพร" และ "เมล็ดพันธุ์ไม้ป่า" ที่มีคุณสมบัติเฉพาะ เช่น เสริมการเจริญเติบโตและป้องกันโรคพืชไว้ภายใน พร้อมหุ้มด้วยดินเหนียวและวัสดุธรรมชาติให้เป็นแหล่งอาหารเริ่มต้นของต้นกล้า ปลูกง่ายขึ้น แค่นำไปโยนหรือวาง ก็สามารถโตเป็นต้นไม้ใหญ่ได้
“เรานำองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีชีวภาพมาสร้างระบบฟื้นฟูป่าแบบแม่นยำ เพิ่มโอกาสให้ต้นไม้สามารถเติบโตได้แม้ในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย นี่ไม่ใช่แค่การปลูกต้นไม้ แต่เป็นการสร้างระบบนิเวศใหม่ให้กลับมาอย่างยั่งยืน”
ชุมชนท้องถิ่นที่เคยอยู่กับผลกระทบจากการทำเหมือง เริ่มมีบทบาทในฐานะ “ผู้ดูแลป่า ด้วยการมีส่วนร่วมในกระบวนการฟื้นฟู และเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ที่เข้ามาเป็นเครื่องมือ
“กิจกรรมนี้คือก้าวสำคัญที่เชื่อมโยงงานวิจัยสู่พื้นที่จริง” เสียงสะท้อนหนึ่งจากนักวิจัยในพื้นที่บอกกับเราว่า “เหมืองผาแดงจะไม่ใช่แค่พื้นที่ฟื้นฟู แต่จะกลายเป็นต้นแบบการใช้วิทยาศาสตร์เพื่อความยั่งยืนของชุมชนและทั้งหมดนี้ คือเพียงจุดเริ่มต้นของเส้นทางที่วิทยาศาสตร์และธรรมชาติกำลังเดินร่วมกันชุมมชน”
ด้าน ดร.ชาญวิทย์ สุริยฉัตรกุล หัวหน้าทีมวิจัยด้านจุลินทรีย์จากไบโอเทค เล่าถึงหัวใจของ Seed Ball ว่าอยู่ที่ "จุลินทรีย์ในพื้นถิ่น" ที่เก็บจากป่าในพื้นที่จริง ซึ่งผ่านการคัดเลือกแล้วว่าช่วยกระตุ้นการงอกของเมล็ดพันธุ์และเร่งการเจริญเติบโต โดย Seed Ball เป็นนวัตกรรมที่เหมาะสำหรับการฟื้นฟูป่าในพื้นที่ลาดชัน และพื้นที่เข้าถึงยาก โดยไบโอเทคได้นำองค์ความรู้เรื่องจุลินทรีย์ ส่งเสริมการเติบโตของพืชโดยใช้จุลินทรีย์ พื้นถิ่นจากผืนผ่าเหมืองผาแดง ชุดแรกมีมากกว่า 2,500 ลูก ประกอบด้วยพันธุ์ไม้ป่ากว่า 10 ชนิด เช่น จามจุรีสีทอง (พฤกษ์), ชัยพฤกษ์, กฬาพฤกษ์, พะยูง, ประดู่ป่า, ชิงชัน, กระพี้จั่น, สาธร, เสลา, อินทนิล และไม้แดง โดยเฉพาะกลุ่มพืชที่มีดอกสีชมพูและไม้เศรษฐกิจเนื้อแข็ง
จุดเริ่มจากจุลินทรีย์...เล็กแต่ทรงพลัง
ไบโอเทค สวทช. ได้นำ "จุลินทรีย์ท้องถิ่น" ที่คัดแยกจากพันธุ์ไม้ป่ากว่า 10 ชนิด เช่น พะยูง ประดู่ป่า อินทนิล และจามจุรีสีทองเป็นต้น มาพัฒนาเป็นลูกจุลินทรีย์มากกว่า 2,500 ลูก เพื่อฟื้นชีวิตให้พืชป่าในพื้นที่เป้าหมาย “พวกมันทำหน้าที่คล้ายผู้จัดอาหารให้ต้นไม้ ช่วยให้รากพืชดูดซึมสารอาหารดีขึ้น ส่งเสริมการเจริญเติบโต และเร่งการฟื้นฟูดินที่เคยแห้งแล้ง “จุลินทรีย์เหล่านี้ไม่เพียงสร้างรากที่แข็งแรง ยังช่วยให้พืชผลิตฮอร์โมนพืชและสารต้านโรค ทำให้ต้นกล้ามีโอกาสรอดสูงในธรรมชาติ”
“ไบโอเทค ปฏิรูปการฟื้นฟูป่าแบบก้าวกระโดด ด้วยนวัตกรรมจุลินทรีย์ท้องถิ่น-ไผ่รวกใหญ่รู้อายุ”
ดร.ยี่โถ กัปตันภทัต นักวิจัยทีมวิจัยนวัตกรรมโรงงานพืชสมุนไพร ไบโอเทค สวทช. เล่าให้ฟังว่า “ต้นไผ่เหล่านี้เป็นมากกว่าพันธุ์ไม้ทั่วไป เพราะเราสามารถควบคุมคุณภาพ อายุ และการขยายพันธุ์ได้แม่นยำ เหมาะกับการฟื้นฟูป่าอย่างรวดเร็วและยั่งยืน” โดยได้พัฒนาต้นไผ่รวกใหญ่รู้อายุ จำนวน 5,000 ต้น จากเนื้อเมล็ดพันธุ์ที่ดี โดยเลือกจากต้นแม่พันธุ์ที่มีลักษณะเด่นที่สุด แล้วเลี้ยงในระบบเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อที่สามารถขยายพันธุ์ได้ดี เพียงพอต่อความต้องการปลูกป่าในวงกว้าง ซึ่งทำให้เราทราบอายุของต้นพันธุ์ พร้อมต่อการวางแผนการฟื้นฟูป่าอย่างแม่นยำและยั่งยืน”
“ไผ่รวกใหญ่รู้อายุ นี้จะตอบโจทย์การฟื้นฟูป่าต้นน้ำ ทั้งในแง่ของความเร็วในการขยายพันธุ์ และคุณภาพของต้นไม้ซึ่งสามารถปรับตัวเข้ากับพื้นที่เฉพาะได้ดี”
กิจกรรมนี้ถือเป็นการยกระดับองค์ความรู้ด้านชีวภาพของไทย สู่การฟื้นฟูป่าอย่างยั่งยืนในระดับองค์กร โดยเฉพาะพื้นที่เป้าหมายอย่าง เหมืองผาแดง ที่เคยเป็นพื้นที่เหมืองมาก่อน เทคโนโลยีใหม่นี้จะช่วยเร่งการฟื้นฟูให้สามารถกลับมาเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากของชุมชนในระยะยาว