Last updated: 8 ก.ย. 2568 | 213 จำนวนผู้เข้าชม |
อีกหนึ่งอุตสาหกรรมขายตรงที่น่าจับตามอง ภายหลังจากกิฟฟารีนได้ร่วมกับพันธมิตรด้านเทคโนโลยีรายใหญ่ไมโครซอฟท์ และฟรอนทิส คิดค้นและพัฒนาระบบ Giffarine AI Coach เสริมทัพนักขายให้มีความเป็นมืออาชีพ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกและก้าวสำคัญของวงการธุรกิจขายตรงไทยที่นำเทคโนโลยี AI มาใช้ เพื่อต้องการเสริมศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถให้กับนักธุรกิจอิสระกิฟฟารีน
พญ.นลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจขายตรงที่มีการแข่งขันรุนแรง และภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลกระทบกับการการจับจ่ายของผู้บริโภค ด้วยเหตุนี้บริษัทจึงปรับตัวและวางแผนเพื่อรับมือกับการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้น ล่าสุดได้เปิดตัว Giffarine AI Coach ซึ่งเป็นระบบเทคโนโลยี AI ที่จะเข้ามาช่วยพัฒนา และต่อยอดนักธุรกิจให้เป็นมืออาชีพมากขึ้น
ทั้งนี้จากข้อมูล พบว่า สัดส่วนการซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์เพิ่มขึ้น คิดเป็นสัดส่วน 30% ของยอดขาย และมีอัตราเติบโต 20% ดังนั้นการเปิดตัว “Giffarine AI Coach” จะเป็นเครื่องมือใหม่ให้นักธุรกิจกิฟฟารีนทำงานได้ง่าย โดยในระบบจะมีโค้ชส่วนตัวที่ช่วยวิเคราะห์วิดีโอ และสร้างสคริปต์ พร้อมให้คำแนะนำเพื่อให้เข้ากับกลยุทธ์และสไตล์ของแต่ละบุคคล สำหรับการขายสินค้า และแนะนำธุรกิจกิฟฟารีน โดยการใช้เทคโนโลยีและโซลูชั่นจากไมโครซอฟท์ ผู้นำด้านเทคโนโลยีคลาวด์ และ AI รวมถึง Azure AI Foundry และฟรอนทิส บริษัท Consulting และ Tech Company ที่ให้บริการด้านคำปรึกษา วางแผนยุทธศาสตร์ และการใช้เทคโนโลยีมาช่วยขับเคลื่อนธุรกิจรายใหญ่ นับเป็นครั้งแรกในวงการธุรกิจขายตรงไทย
สำหรับภาพรวมธุรกิจขายตรงปี 2568 ยังมีสัญญาณบวกจากเทรนด์ตลาดสุขภาพและความงามที่ยังคงเป็นที่นิยมของผู้บริโภค และเป็นธุรกิจที่ยังสามารถไปต่อได้ โดยมูลค่าตลาดรวมธุรกิจขายตรงที่สมาคมการขายตรงไทยได้รวบรวมไว้ล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 56,400 ล้าน โดยกลุ่มสินค้าที่มีแนวโน้มและโอกาสเติบโตสูงของกิฟฟารีนยังคงเป็นกลุ่มสกินแคร์ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ในกลุ่ม Longevity และเสริมภูมิคุ้มกัน ผลิตภัณฑ์กลุ่มดูแลรูปร่าง และผลิตภัณฑ์โปรตีนวีแกน
นายปริญญ์ บุญดีสกุลโชค CEO & Managing Partner ของ บริษัท ฟรอนทิส จำกัด กล่าวว่า ในยุคที่ AI พัฒนาอย่างก้าวกระโดด การนำ AI มาช่วยงานอาจไม่เพียงพอที่จะสร้างความแตกต่าง หัวใจสำคัญคือการสร้างความได้เปรียบจาก AI โดยเปลี่ยนโจทย์ความท้าทายให้กลายเป็นโซลูชัน Giffarine AI Coach ซึ่งไม่เพียงเป็นเครื่องมือ แต่เป็นผู้ช่วยส่วนตัวที่เสริมศักยภาพ Empower ให้นักธุรกิจกิฟฟารีนทำงานได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพมากขึ้น กรณีของกิฟฟารีนเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า ในยุค AI Disruption นี้องค์กรที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนอาจไม่ได้ขึ้นกับขนาดใหญ่ที่สุดหรือเร็วที่สุด แต่คือผู้ที่ปรับตัวและสามารถผสานเทคโนโลยีเข้ากับกลยุทธ์และคนทำงานได้อย่างตรงจุด
นายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย กล่าวว่า กิฟฟารีนเป็นบริษัทขายตรงสัญชาติไทย รายแรกที่พัฒนา Giffarine AI Coach ในรูปแบบ AI Agent เพื่อเสริมศักยภาพนักธุรกิจให้ทำงานและ
สื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ด้วยข้อมูลที่แม่นยำและการนำเสนอสินค้าที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า ทั้งยังช่วยเปิดโอกาสให้นักธุรกิจได้เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ขยายตลาดใหม่ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ไมโครซอฟท์เชื่อมั่นว่า AI จะเป็นพลังสำคัญสร้างเพื่อสร้างอิมแพค และยกระดับกิฟฟารีนสู่การเป็น Frontier Firm ของธุรกิจขายตรงไทยในยุค AI อย่างแท้จริง