เดนทิสเต้ทุ่มงบ 250 ล.ชูแผนครึ่งหลัง ผนึกสายการบินขยายฐานลูกค้านอก

กว่าจะมาเป็นยาสีฟัน “เดนทิสเต้” ที่ประสบความสำเร็จในวันนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะตลอดระยะเวลา 20 ปีของการสร้างรากฐานของแบรนด์ให้แข็งแกร่งนับเป็นโจทย์ที่ท้าทายในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก เนื่องจากที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ตลาดนี้ยังคงมีผู้เล่นหลายแบรนด์เข้ามาช่วงชิงส่วนแบ่งทางการตลาด ซึ่งเดนทิสเต้ได้วางแนวทางและกลยุทธ์การตลาดอย่างชัดเจน ดังจะเห็นได้จากการให้ความสำคัญกับการสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ (Brand Awareness) ที่ทำให้ผู้บริโภคจำนวนมากรับรู้ และจดจำแบรนด์

จากกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ที่ทำให้ผู้บริโภคจดจำทั่วโลก ด้วยการเลือกซุปเปอร์สตาร์ระดับโลกอย่างลลิษา มโนบาล หรือลิซ่ามาเป็นโกลบอลแบรนด์ ยาสีฟันเดนทิสเต้ ในปี 2024 ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างถล่มทลาย จากผู้บริโภคกลุ่มใหม่ และแฟนคลับของลิซ่า (ลิลลี่) และแฟนคลับของวงแบล็คพิ้งค์ (บลิ้ง) นับเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญที่ขับเคลื่อนตลาดผลิตภัณฑ์ยาสีฟันให้เติบโตเพิ่มขึ้น

ล่าสุด เภสัชกร ดร.แสงสุข พิทยานุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามเฮลท์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวถึงแผนการตลาดครึ่งหลังของปี 2025 ด้วยการควักงบ 250 ล้านบาท ชูกลยุทธ์ “Den” เน้นความยั่งยืน และการมีสุขภาพช่องปากที่ดี จับมือกับพันธมิตร 2 องค์กรหลัก คือแบรนด์ ภิพัชรา แบรนด์ไทยที่จำหน่ายแฟชั่น กระเป๋า เสื้อผ้า เครื่องประดับ โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2025 เป็นต้นไป โดยผู้บริโภคสามารถนำหลอดยาสีฟัน และแปรงสีฟันมาแลกผลิตภัณฑ์เดนทิสเต้ฟรีทั่วประเทศ จากนั้นแบรนด์ภิพัชรา จะนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์แฟชั่นไอเทมรักษ์โลก

นอกจากนี้ยังได้ร่วมมือกับการบินไทย ส่งชุดผลิตภัณฑ์เดนทิสเต้ ออรัลแค เซ็ท รุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น สร้างประสบการณ์ดูแลช่องปากสุดพิเศษให้กับผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาสและชั้นธุรกิจ จำนวน 3.8 ล้านชุด ในระยะเวลา 18 เดือน บนเส้นทางระหว่างประเทศ ที่เริ่มขึ้นแล้วเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2025 ที่ผ่านมา

จากแผนความร่วมมือกับพันธมิตร บริษัทได้ร่วมมือกับสายการบินอื่นๆ ที่จะช่วยผลักดันยอดขายให้เติบโตประมาณ 20% ในปีนี้ คือความร่วมมือกับสายการบินสิงคโปร์ ที่คาดว่าจะเริ่มได้ในไตรมาส 4 ของปีนี้ รวมถึงสายการบินการ์ตา และสายการบินเอมิเรตส์ เป็นต้น ซึ่งแผนการตลาดังกล่าวถือเป็นการขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ที่ยังไม่เคยใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทมาก่อน

นายกิตติพงษ์ สารสมบูรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริการลูกค้าและการตลาด บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากความร่วมมือกับบริษัท สยามเฮลท์ กรุ๊ป ในครั้งนี้ เนื่องจากต้องการสนับสนุนแบรนด์ไทย อีกทั้งยาสีฟันเดนทิสเต้เป็นแบรนด์ที่มีคุณภาพระดับโลก ซึ่งบริษัทต้องการสร้างประสบการณ์สุดพิเศษให้กับผู้โดยสารในเที่ยวบินเส้นทางสำคัญจากทั่วโลก อาทิ ลอนดอน ปารีส มิลาน มิวนิก ญี่ปุ่น เซี่ยงไฮ้ และปักกิ่ง ที่นับเป็นการสะท้อนภาพลักษณ์ที่ดีในระดับสากล

ด้านนางสาวภิพัชรา แก้วจินดา ดีไซเนอร์และผู้ก่อตั้ง แบรนด์ภิพัชรา กล่าวว่า ความร่วมมือกับเดนทิสเต้ในครั้งนี้นับเป็นโครงการที่ดีในการเปลี่ยนแปรงสีฟันเก่าให้เป็นผลิตภัณฑ์แฟชั่นที่มีคุณค่า สอดคล้องกับแนวความคิด Fashion from Community สร้างสรรค์แฟชั่นที่มีจุดเริ่มต้นจากสิ่งของรอบตัวคุณ

สำหรับภาพรวมตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากในประเทศไทยปัจจุบันมีมูลค่าประมาณ 20,000 ล้านบาท ในปี 2024 และคาดว่าจะเติบโตประมาณ 6% ในปีนี้ โดยมูลค่าดังกล่าวแบ่งเป็นตลาดยาสีฟัน 10,500 ล้านบาท และมีอัตราเติบโตประมาณ 3-4% ต่อปี ขณะที่ เดนทิสเต้มีส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มยาสีฟันพรีเมียมในประเทศไทยมากกว่า 10% เป็นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาด ส่วนแปรงสีฟันเดนทิสเต้นมีส่วนแบ่งการตลาดที่ 4% และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 8% ในปีนี้ สุดท้ายคือน้ำยาบ้วนปากเดนทิสเต้ที่ปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาดที่ 0.5%

ปัจจุบันเดนทิสเต้มีผลิตภัณฑ์ 7 กลุ่มหลัก ได้แก่ ยาสีฟัน, แปรงสีฟัน, น้ำยาบ้วนปาก, สเปรย์ระงับกลิ่นปาก, ไหมขัดฟัน, เม็ดอมระงับกลิ่นปาก และอื่นๆ คือ เครื่องทำความสะอาดลิ้น และชุดดูแลช่องปากสำหรับเดินทาง อีกทั้งได้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ในตลาดต่างประเทศแล้วประมาณ 27 ประเทศทั่วโลก และมีแผนจะเจาะตลาดลาตินอเมริกา คือบราซิล แม็กซิโก และชิลี ในปีนี้