CH ฉลองครบรอบ 100 ปี ดัน 3 กลยุทธ์ดันยอดขายโต 10%

จากโรงงานผู้ผลิตน้ำปลา, ซีอิ๊ว และปลาซาร์ดีนกระป๋อง แห่งแรกในเมืองไทย วันนี้ บมจ.เจริญอุตสาหกรรม หรือจิ้นฮ่วย เดินทางครบรอบสู่ 1 ศตวรรษ (100 ปี) เป็นบริษัทในตำนานที่เป็นผู้ผลิตและส่งออกรายใหญ่ของประเทศไทย กับผลิตภัณฑ์ 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ ปลากระป๋องแบรนด์, ผลไม้อบแห้ง และขนมเพื่อสุขภาพ ที่ครองใจผู้บริโภคหลายประเทศทั่วโลก

ในปี 2568 ซึ่งเป็นปีแห่งความท้าทายของสภาวะเศรษฐกิจในประเทศและตลาดโลก บริษัทยังคงมีเป้าหมายเติบโตต่อเนื่องที่ 10% ด้วยวิสัยทัศน์ “Expand Control and be know” ตอกย้ำผู้นำด้านอาหารเพื่อสุขภาพ “Innovative Healthy Food” ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น

นายศักดา ศรีแสงนาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจริญอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ CH บอกว่า ในโอกาสครบรอบ 100 ปี บริษัทเตรียมแผนการตลาด 3 กลยุทธ์หลักได้แก่ 1.การขยายฐานการผลิตและสำนักงานทั่วโลก 2.การควบคุมคุณภาพวัตถุดิบ ตั้งแต้ต้นทางเพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน ตลอดจนการบริหารจัดการต้นทุนและกระบวนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ3.เน้นสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งและเป็นที่รู้จักในตลาดโลก

ทั้งนี้บริษัทได้ส่งออกผลิตภัณฑ์มากกว่า 20 ประเทศทั่วโลก แบ่งสัดส่วนเป็นส่งออก 89% ได้แก่ตลาดสหรัฐอเมริกา 54% ออสเตรเลีย 1% เอเชีย 21% และยุโรป 13% ส่วนตลาดในประเทศ 11% ขณะที่รายได้หลักในปัจจุบันมาจากการรับจ้างผลิต (OEM) มากถึง 80% และ 20% เป็นการผลิตภายใต้แบรนด์ของบริษัท

สำหรับประเด็นที่มีความกังวล เกี่ยวกับการขึ้นภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์จากไทยไปสหรัฐอเมริกาที่ 36% ภายใต้กฎหมาย International Emergency Economic Powers Act of 1977 (IEEPA) มีระยะเวลาผ่อนผัน 90 วัน ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 7 กรกฎาคม 2568 ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนยอดขายในตลาดสหรัฐอเมริกามากถึง 54% จะส่งผลกระทบกับบริษัทหรือไม่

ประเด็นนี้บริษัทได้เตรียมแผนรับมือสงครามการค้าไว้ที่ 3 ระยะ คือ1.ระยะสั้น เจรจากับคู่ค่าเพื่อปรับตัวร่วมกัน 2.ระยะกลาง มุ่งขยายไปยังตลาดใหม่ในประเทศอื่นๆ เช่นจีน และตลาด EU ที่คาดว่าจะมีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นในอนาคต รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีต้นทุนต่ำในตลาดสหรัฐอเมริกาเพื่อรักษาระดับราคาที่สามารถแข่งขันได้ และ3.ระยะยาวพิจารณาการลงทุนในประเทศที่ได้เปรียบเรื่องกำแพงภาษี เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ยังวางแผนการลงทุนไว้ 2 แนวทาง ได้แก่ 1.การเพิ่มกำลังการผลิตที่อำเภอท่าฉลอม จังหวัดสมุทรสาคร หรือเตรียมโรงงานแห่งใหม่ที่มีความทันสมัยในด้านเทคโนโลยี ถัดมาคือโรงงานผลิตที่แคมโบเดีย อาจมีการลงทุนในด้านเครื่องจักรเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตที่สูงขึ้นในอนาคต และการเปิดโรงงานผลิตสินค้า หรือการสร้างสำนักงานแห่งใหม่ในต่างประเทศ

ในส่วนของแนวทางที่ 2 คือการทำฟาร์มผลไม้ การออกแบบและให้คำแนะนำเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์อย่างครบวงจร รวมถึงการจัดทำระบบโลจิสติคส์ โดยทั้ง 2 แนวทางบริษัทจะจัดทำแผนการลงทุนในแนวทางแรกก่อน จากนั้นจะจัดทำแผนแนวทางที่ 2 ตามลำดับ ซึ่งเป็นแผนในกรอบเวลา 3 ปี    

ล่าสุด ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่คือ Eros มะม่วงแบะบ๊วย วางจำหน่ายแล้วที่เซ่เว่นอีเลฟเว่น, Mango Bites มะม่วงอบแห้งสูตรนุ่มพิเศษ, มะม่วงอบแห้งธรรมชาติ และมะม่วงหลากรส ที่ได้เปิดตัวไปแล้วในงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม "THAIFEX – ANUGA ASIA 2025" ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27-31 พ.ค. 2568