ซัมซุงตอกย้ำผู้นำทีวีเบอร์ 1 โลก ขนทัพทีวี AI ปลุกกำลังซื้อผู้บริโภค

ในยุคที่โลกเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างรอบตัวรายล้อมด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ ทำให้หลายคนสงสัยว่าเมื่อสมาร์ทโฟนเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันแล้วจะทำให้ยอดขายของตลาดทีวีลดลงหรือไม่ เรื่องนี้ “ซัมซุง”ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมทีวียังคงยืนยันว่าตลาดทีวีไม่ตาย และยังคงมีอัตราการเติบโตที่ดี โดยปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ตลาดเติบโตคือ การพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ การนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคมากขึ้น ด้วยเทคโนโลยี AI

จากการสำรวจในตลาดทีวีพบว่า อัตราการเปลี่ยนโทรทัศน์ของผู้ใช้งาน เริ่มมีระยะเวลาสั้นลง จากเดิมจะเปลี่ยนเพราะทีวีเสีย แต่ปัจจุบันผู้บริโภคจะเปลี่ยนทีวีจากเดิมที่ใช้เวลานานถึง 6 ปี, 5 ปี และ4 ปีตามลำดับ ทั้งนี้ในกลุ่มตลาดทีวีที่ยังคงเติบโตต่อเนื่องคือกลุ่มทีวีระดับพรีเมี่ยม โดยไตรมาสแรกของปี 2568 มีอัตราเติบโตที่ 10%

นายชวพจน์ เทียนทอง ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจภาพและเสียง บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด บอกว่า แผนการขับเคลื่อนตลาดทีวีในปีนี้จะเน้นนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคอย่างแท้จริงด้วยเทคโนโลยี วิชั่น AI ทีวี AI อัจฉริยะด้วยฟีเจอร์สุดล้ำ 8K AI Upscaling Pro ความคมชัดของคอนเทนต์ระดับ 8K แบบเรียลไทม์ ปรับคุณภาพเสียงได้ทันที และฟีเจอร์ใหม่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี 3D Map View และ SmartThings ยกระดับการควบคุมอุปกรณ์ในบ้านให้ใช้งานง่ายและแม่นยำ ผ่านแผนผัง 3 มิติของบ้าน ที่มีความแตกต่างด้วยนวัตกรรม Real Quantum Dot ตัวจริง เทคโนโลยีจอภาพเฉพาะจากซัมซุง สีสด คมชัด ปลอดภัยจากสารแคดเมียม

ในส่วนของกลุ่มผลิตภัณฑ์ทีวีที่รองรับเทคโนโลยีใหม่ AI ของซัมซุงในปี 2568 ที่เป็นสุดยอดของนวัตกรรมรองรับระบบอัปเดต OS ฟรีนานถึง 7 ปี ได้แก่รุ่น Neo QLED 8K QN990Fราคาเริ่มต้นที่ 139,990 บาท, OLED Series ราคาเริ่มต้นที่ 44,990 บาท, The Frame ราคาเริ่มต้นที่ 25,990 บาท และSoundbar Q-Series ราคาเริ่มต้น 12,990 บาท

อย่างไรก็ตามในปี 2024 ที่ผ่าน ตลาดสมาร์ททีวีทั่วโลกมีมูลค่าประมาณ 2.91 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 4.9 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2030 ขณะที่การเติบโตของยอดขายทีวีทั่วโลกมีประมาณ 230 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับปี 2023

ขณะที่ตลาดทีวีระดับพรีเมียมมีมูลค่าประมาณ 2,500 ดอลลาร์สหรัฐ โดยในไตรมาสที่ 4 ของปี 2024 เติบโตมากถึง 51% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ ในปี 2024 ที่ผ่านมาซัมซุงยังครองตำแหน่งผู้นำตลาดทีวีทั่วโลกเป็นปีที่ 19 ติดต่อกัน ด้วยส่วนแบ่งการตลาดโดยรวมอยู่ที่ 28.3% นอกจากนี้ยังเป็นผู้นำในตลาดทีวีระดับพรีเมียม (มูลค่าตลาดประมาณ 2,500 ดอลลาร์สหรัฐ) ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 49.6% และในกลุ่มทีวีขนาดใหญ่พิเศษ (75 นิ้วขึ้นไป) ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 28.7% ในส่วนของเทคโนโลยีทีวีเฉพาะกลุ่ม ซัมซุงมีส่วนแบ่งการตลาด QLED TV อยู่ที่ 46.8% และ OLED TV อยู่ที่ 27.3% ขณะที่ ภาพรวมตลาดทีวีในประเทศไทย มีมูลค่าประมาณ 2.2 หมื่นล้านบาท ในปี 2024 และในปี 2025 คาดว่าจะเติบโตประมาณ 2% ในเชิงมูลค่า โดยตัวแปรสำคัญที่ทำให้ตลาดเติบโตคือผลิตภัณฑ์ทีวีในกลุ่มพรีเมี่ยม