จระเข้ คอร์ปอเรชั่น ลุย Net Zero ชูวิสัยทัศน์ 68 พลิกโฉมวงการก่อสร้างสีเขียวเต็มรูปแบบ

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ผลิตภัณฑ์จากจระเข้ ที่นำมาใช้ในการก่อสร้าง ซ่อมแซม และตกแต่งครบวงจรที่ใส่ใจชีวิตผู้คนและสิ่งแวดล้อมจนสามารถเข้ามาเป็นผู้นำตลาดซีเมนต์และกาวยาแนวที่ครองตลาดมากว่า 50 เปอร์เซ็นต์ภายใต้ตลาดรวมในปี 67 ที่มีมูลค่าถึง 4.400 ล้านบาท

หลังจากมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมวัสดุก่อสร้างครบวงจร เดินหน้ายกระดับสู่การเป็นผู้นำด้านก่อสร้างสีเขียว ประกาศเป้าหมายมุ่งสู่ Carbon Neutrality ภายในปี 2050 และ Net Zero ภายในปี 2065 พร้อมตั้งเป้าเติบโตทางธุรกิจ 10% ในปี 2568

นายศุภพงษ์ เพชรสุทธิ์ ประธานกรรมการบริหาร กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าขยายพอร์ต “Green Products” ครอบคลุมทุกกลุ่มสินค้า พร้อมพลิกโฉมกระบวนการผลิตและจัดจำหน่ายสู่ความยั่งยืน เดินหน้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยปัจจุบันบริษัทติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ที่โรงงานและสำนักงานใหญ่ ช่วยลดคาร์บอนกว่า 600 ตัน/ปี   จากข้อมูล Krungsri Research แม้ตลาดวัสดุก่อสร้างในปี 2567 หดตัว -2% ถึง -3% แต่ “จระเข้” ยังเติบโต 6% โดยเฉพาะกลุ่มกาวซีเมนต์และยาแนวที่ยังครองส่วนแบ่งตลาดกว่า 50% และยังเป็นผู้ผลิตรายแรกที่ผ่านมาตรฐาน มอก. 2703-2566 ระดับคุณภาพพิเศษ

ในปี 2568 “จระเข้” มุ่งขยายตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะ CLMV ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้ต่างประเทศเป็น 15% ภายใน 2 ปี ผ่านกลยุทธ์สร้างพันธมิตรท้องถิ่น พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงความต้องการ และรุกเปิด Flagship Store พร้อมเสริมช่องทางออนไลน์   โดยที่ตลาดรวมวัสดุก่อสร้างในกลุ่มประเทศ CLMV (สปป.ลาว,เขมร,เมียนมาร์และเวียดนาม) เป็นตลาดที่มีศักยภาพ มีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 2.1 ล้านล้านบาท ซึ่งตลาดเวียดนามมีอัตราการเติบโตสูง เป็นตลาดที่มีการขยายตัวมากกว่าประเทศไทยประมาณ 2-3เท่า

ดร.จิรัฏฐ์ สิริเฉลิมพงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ อาวุโส กล่าวว่า วิสัยทัศน์ “Sustainable Building Innovation” คือหัวใจการพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ “ฉลาด ปลอดภัย และยั่งยืน” ล่าสุดเปิดตัวผลิตภัณฑ์เด่น เช่น Crocodile Road Fix Express, Dustless Technology ลดฝุ่น 80%, สีปลอด VOC และกาวซีเมนต์สูตรใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยกลุ่ม Green Products คิดเป็น 63% ของสินค้าทั้งหมด
ตลาดวัสดุก่อสร้างในกลุ่ม CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว จากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและความต้องการวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในเวียดนามและกัมพูชาที่มีการพัฒนาระบบขนส่งและสนามบินอย่างต่อเนื่อง

ดังนี้นแบรนด์ "จระเข้" เดินหน้าขยายตลาดใน CLMV อย่างเป็นระบบ ปัจจุบันมีรายได้จากต่างประเทศราว 10% และตั้งเป้าเพิ่มเป็น 15% ใน 2 ปี ด้วยการจับมือพันธมิตรท้องถิ่น ปรับสินค้าให้เหมาะกับแต่ละประเทศ และวางกลยุทธ์ระยะยาวเพื่อสร้างแบรนด์และฐานธุรกิจระดับภูมิภาค โดยเน้นขยายเครือข่ายค้าปลีกและร่วมกับโครงการก่อสร้างในตลาดหลักอย่างเวียดนาม กัมพูชา และลาว

นอกจากนี้ “จระเข้” ยังร่วมงาน สถาปนิก’68 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี จัดแสดงนวัตกรรมใน 6 โซนหลัก ภายใต้แนวคิด “Build Today, Beyond Tomorrow” พร้อมเปิดตัวสี Metallic Loft และ Stone Decor รุ่นใหม่ ภายในบูธ JORAKAY PAVILION

ทั้งนี้ บริษัทได้ประกาศวิสัยทัศน์ Net Zero ภายใต้กรอบ Jorakay Sustainability Framework ที่ยึดหลัก 3P: Green Process, Green Planet, Green People ขับเคลื่อนด้วย 5SD ลด CO2 ขยะ สารพิษ ฝุ่น และเพิ่มผลิตภัณฑ์รักษ์โลก พร้อมตอกย้ำพันธกิจเป็นแบรนด์ที่สร้างสมดุล “ผลประกอบการ” ควบคู่ “ความยั่งยืน”

ด้านนายวรพจน์ ตั้งมนัสวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า  " ธีมการนำเสนอของจระเข้ในปีนี้คือ ‘Build Today, Beyond Tomorrow : ที่สุดของนวัตกรรม เพื่อพรุ่งนี้ที่ยั่งยืนกว่า' ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการนำเสนอนวัตกรรมที่คำนึงถึงเจเนอเรชันต่อไปในอนาคต ที่ JORAKAY PAVILION      ผู้เข้าชมงานจะพบกับ 6 โซนนวัตกรรม ได้แก่ FLOORING INNOVATION นวัตกรรมงานพื้นผิวที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความทนทาน, STRUCTURE INNOVATION นวัตกรรมโครงสร้างที่ใช้วัสดุคุณภาพสูง ลดระยะเวลาก่อสร้าง, TILING INNOVATION ผู้นำนวัตกรรมการปูกระเบื้อง ยืนหนึ่งสู่ความยั่งยืน ซึ่งหนึ่งในไฮไลต์สำคัญ คือการสาธิตให้เห็นผลลัพธ์ของ นวัตกรรม Dustless Technology ที่ลดการฟุ้งกระจายของฝุ่นได้มากถึง 80%, WATER PROOF INNOVATION นวัตกรรมสำหรับงานกันซึม จบปัญหารั่วซึมทุกจุด ตั้งแต่ฐานรากไปจนถึงดาดฟ้า หลังคา, SEE JORAKAY สีปลอดภัยที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม

พร้อมเปิดตัวนวัตกรรมสีสุดล้ำ Metallic Loft และ Stone Decor ตัวใหม่ล่าสุดในงาน รวมถึง โซน “Beyond Tomorrow” ที่นำเสนอ “JORAKAY SUSTAINABILITY FRAMEWORK”แนวคิดเพื่อความยั่งยืน สนับสนุนการก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพื่อสร้างรากฐานที่ดีกว่าในวันนี้ และความยั่งยืนให้กับผู้คนและโลกในวันข้างหน้า นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรม Jorakay Expert Talk เวทีทอล์กจากผู้เชี่ยวชาญหลากหลายวงการ ทั้งก่อสร้าง นักออกแบบ สถาปนิก และผู้ใช้งานจริง มาแชร์วิสัยทัศน์และแนวทางสร้างสรรค์เมืองเพื่ออนาคต เรามั่นใจว่าผู้ที่เยี่ยมชม Jorakay Pavilion ไม่ว่าจะเป็นสถาปนิก นักออกแบบ คนในแวดวงอสังหาฯ ตลอดจนคนรุ่นใหม่ที่สนใจงานดีไซน์และนวัตกรรม จะได้แรงบันดาลใจใหม่ ๆ ด้านการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ทั้งปลอดภัยต่อชีวิตและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมตอกย้ำว่าเราทุกคนสามารถเลือกนวัตกรรมที่ดีต่อคนและโลก และเริ่ม ‘สร้างพรุ่งนี้ที่ยั่งยืนกว่า’ ไปด้วยกันได้้”