Last updated: 7 มิ.ย. 2566 | 315 จำนวนผู้เข้าชม |
บริษัท เดโก้ กรีน เอนเนอร์จี จำกัด ในเครือบริษัท เมททูวิน โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ร่วมเป็นผู้สนับสนุนในโครงการ "MEESOOK LIFE #6" ซึ่งจัดโดย การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เพื่อส่งมอบความสุขให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าของ กฟน. ผ่านกิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี อย่างเช่น การส่งเสริมให้ลูกค้าใช้บริการ MEA e-Bill และ MEA Point ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการลดภาวะโลกร้อน โดยครั้งนี้ผู้ที่สมัคร MEA e-Bill ทั้งเก่าและใหม่ จะได้รับส่วนลดเพิ่มเติมจากเงินอุดหนุนภาครัฐที่แต่เดิมได้รับ 18,000 บาท เมื่อซื้อรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า BEV เพิ่มขึ้นในมูลค่า 4,000 บาท รวมแล้วจะได้รับส่วนลดเพิ่มขึ้นถึง 22,000 บาท
นายกฤตเมธ ตั้งพิชญโพธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดโก้ กรีน เอนเนอร์จี จำกัด บริษัทในเครือ MTW กล่าวว่า เรามีความยินดีอย่างมาก ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนโครงการ MEESOOK LIFE#6 ที่มุ่งให้คนไทยหันมารับเอกสารในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ MEA e-Bill มากยิ่งขึ้น สอดรับกับการดำเนินงานของเดโก้ ที่ในวันนี้เราเดินหน้าพัฒนาทางเลือกใหม่ของผู้บริโภค และตรงกับสถานการณ์ปัจจุบัน ในการให้ความสำคัญด้านพลังงานสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อย่างเช่น การผลิตจักรยานยนต์ไฟฟ้า ที่ในวันนี้ เดโก้ ถือเป็นรายแรกในตลาดมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ที่เข้าลงนาม MOU ร่วมมาตรการลดภาษีกับกรมสรรพสามิต รับสิทธิเงินอุดหนุนจากภาครัฐ 18,000 บาท/คัน
สำหรับสิทธิพิเศษสำหรับผู้ที่สมัคร MEA e-Bill หรือรับเอกสารในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งเก่าและใหม่ จะได้รับส่วนลดเพิ่มเติมจากเงินอุดหนุนภาครัฐมูลค่า 4,000 บาท ซึ่งแต่เดิมเมื่อซื้อรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า BEV จะได้รับส่วนลด 18,000 บาท แต่เมื่อสมัครบริการดังกล่าว จะได้ส่วนลดเพิ่มรวมเป็นมูลค่า 22,000 บาท เมื่อซื้อ DECO e-Bike ที่ตัวแทนจำหน่ายเข้าร่วมโครงการทุกสาขา โดยให้สิทธิ์เดือนละ 999 คัน เริ่มแล้วตั้งแต่วันนี้จนถึงสิ้นปี 2566
“เดโก้ยังคงเดินหน้าสานต่อพันธกิจที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจ นอกจากจะเข้าร่วมแคมเปญ Green Lucky Drew เพื่อส่งต่อความสุขให้กับคนไทย ได้มีโอกาสเข้าถึงรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น จากที่เรามีตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศมากกว่า 200 สาขา ล่าสุดยังได้เซ็น MOU เพื่อเป็นผู้ผลิต (OEM)ให้กับบริษัท ไนท์ โกลเบิล จำกัด เพื่อเป็นตัวตัวแทนจำหน่ายไปยังต่างประเทศในอาเซียน เช่น สปป.ลาว, เวียดนาม, กัมพูชา, เมียนมาร์, ฟิลิปปินส์ และ อินโดนีเซีย เพื่อรองรับกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น หลังจากโรงงานแห่งใหม่สร้างเสร็จ และเริ่มการผลิตได้มากกว่า 4,000 คันต่อเดือนในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ และพร้อมส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าผ่านรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ที่มีส่วนช่วยสำคัญในการช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ รวมทั้งเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยภาครัฐ ในการขับเคลื่อนนโยบายสู่การใช้รถ EV ให้ได้ 1.2 ล้านคัน ภายในปี 2579” นายกฤตเมธ กล่าวทิ้งท้าย