"อะโดบี" เปิดตัวโมเดลและเว็บแอป Firefly Generative AI ใหม่ ผสานรวม Firefly เข้ากับ Creative Cloud และ Adobe Express

Last updated: 18 ก.ย. 2566  |  245 จำนวนผู้เข้าชม  | 

"อะโดบี" เปิดตัวโมเดลและเว็บแอป Firefly Generative AI ใหม่ ผสานรวม Firefly เข้ากับ Creative Cloud และ Adobe Express

อะโดบี (Nasdaq: ADBE) เปิดตัวเว็บแอปพลิเคชั่น Firefly พื้นที่ปลดปล่อยพลังความคิดสร้างสรรค์โดยอาศัย AI หลังจากที่ประสบความสำเร็จจากการทดลองใช้งานรุ่นเบต้าเป็นเวลา 6 เดือน ความสามารถที่ขับเคลื่อนด้วย Firefly ได้ถูกรวมเข้ากับเวิร์กโฟลว์ใหม่ๆ บน Adobe Creative Cloud, Adobe Express และ Adobe Experience Cloud ซึ่งพร้อมแล้วสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์

โมเดล Generative AI ของ Firefly สำหรับรูปภาพ เอฟเฟ็กต์ข้อความ และเวกเตอร์ รองรับข้อความคำสั่งกว่า 100 ภาษา และช่วยให้ผู้ใช้ทั่วโลกสร้างคอนเทนต์ที่น่าทึ่งโดยสามารถใช้งานในเชิงพาณิชย์ได้อย่างปลอดภัย

อีไล กรีนฟิลด์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี กลุ่มธุรกิจสื่อดิจิทัลของอะโดบี กล่าวว่า “ด้วยการสร้างสรรค์ผลงานกว่า 2 พันล้านชิ้นโดยใช้ Firefly รุ่นเบต้า ครีเอเตอร์ทำให้เรารู้สึกทึ่งกับการมีส่วนร่วมและการตอบรับอย่างท้วมท้น ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้เรานำเสนอความสามารถด้าน Generative AI ที่ออกแบบมาให้มีความปลอดภัยในเชิงพาณิชย์ และบูรณาการอย่างไร้รอยต่อเข้ากับอินเทอร์เฟซที่ลูกค้าชื่นชอบ”

Firefly for Enterprise เปิดให้ใช้งานแล้ว โดยนำเสนอความสามารถด้าน Generative AI ที่ก้าวล้ำไปสู่ Adobe GenStudio และ Express for Enterprise อะโดบีกำลังทำงานร่วมกับลูกค้าองค์กรเพื่อให้สามารถปรับแต่งโมเดลโดยใช้แอสเซ็ทของลูกค้าในการสร้างคอนเทนต์แบบกำหนดเองและคอนเทนต์เฉพาะสำหรับแบรนด์ และลูกค้ายังสามารถเข้าถึง Firefly API เพื่อฝังเทคโนโลยี Firefly ไว้ในอีโคซิสเต็มส์ของลูกค้า และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเวิร์กโฟลว์ของลูกค้า นอกจากนี้ Firefly for Enterprise ยังมีการเสนอจ่ายค่าชดเชยให้กับธุรกิจสำหรับฟีเจอร์ Firefly ที่ใช้ในการสร้างภาพ

แบรนด์ระดับโลกชั้นนำ เช่น Accenture, IHG Hotels & Resorts, Mattel, NASCAR, NVIDIA, ServiceNow และ Omnicom ได้ทำงานร่วมกับอะโดบีเพื่อศึกษาร่วมกันว่า Firefly สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และช่วยเร่งคอนเทนต์ซัพพลายเชนได้อย่างไร

นอกจากนี้ อะโดบียังได้เปิดตัวโมเดลเครดิตใหม่สำหรับ generative AI พร้อมข้อเสนอใหม่ผ่าน Generative Credits ซึ่งเป็นโทเค็นที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถเปลี่ยน text-based prompt เป็นการสร้างสรรค์ภาพและเวกเตอร์ใน Photoshop, Illustrator, Express และ Firefly แผนการชำระเงินของ Firefly, Express Premium และ Creative Cloud รวมการจัดสรร Generative Credits แล้ว

AI-powered Creative Cloud อัปเดตล่าสุด :

Creative generative AI ใน Photoshop และ Illustrator ซึ่งขับเคลื่อนโดย Firefly พร้อมใช้งานแล้วในแอป Creative Cloud หลายตัว รวมถึง Generative Fill และ Generative Expand ใน Photoshop และ Generative Recolor ใน Illustrator

ฟีเจอร์ AI ใหม่ใน Premiere Pro พร้อมการตรวจจับคำเติมอัตโนมัติที่เพิ่มใน Text-Based Editing ฟีเจอร์ Enhance Speech ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถลบเสียงรบกวนจากการบันทึกเสียงได้ด้วยคลิกเดียว และไทม์ไลน์ของ Premiere Pro ที่สามารถปรับความเร็วขึ้นได้ถึง 5 เท่า ทำให้การแก้ไขและตัดแต่งราบรื่นและทำงานได้ราบรื่นมากขึ้น การปรับปรุงเพิ่มเติม ได้แก่ การตั้งค่าสีใหม่ที่เรียบง่าย การจับคู่โทนสีที่ได้รับการปรับปรุง เทมเพลตโปรเจ็กต์ใหม่ โลเคชั่นที่เลือกได้ custom export การส่งออกแบบกำหนดเอง การแท็กประเภทเสียง และฟีเจอร์อื่น ๆ

3D workspace ใหม่ และ Roto Brush ใน After Effects พร้อมให้ใช้งานแล้วในแอป After Effects เบต้า ซึ่งเป็น 3D workspace ที่รองรับการทำงาน 3D ที่ให้ผู้ใช้สามารถอิมพอร์ต สร้างพื้นผิว ปรับแสง แรเงา และเรนเดอร์โมเดล 3D คุณภาพสูงได้จากภายใน After Effects ด้วย 3D workspace ใหม่นี้ ผู้ใช้สามารถรวมโมเดล 3D เข้ากับกราฟิก 2D เพื่อสร้าง VFX composite ที่ไร้รอยต่อและโมชั่นกราฟิกที่สะดุดตา Roto Brush ใหม่ที่ได้รับการปรับปรุงด้วย AI พร้อมใช้งานแล้วในแอป After Effects เบต้า ทำให้ผู้ใช้สามารถตัดวัตถุออกจากวิดีโอได้เร็วและแม่นยำกว่าที่เคย

เว็บแอป Firefly ใหม่ นำเสนอโมดูล AI สร้างสรรค์เพื่อสร้างภาพ ใช้สไตล์หรือพื้นผิวสร้างเป็นข้อความ หรือเปลี่ยนสีงานศิลปะ พร้อมรองรับ text prompt ภาษาต่าง ๆ มากกว่า 100 ภาษาทั่วโลก ขณะนี้ผู้ใช้สามารถสร้างไอเดียและคอนเทนต์สำหรับโปรเจ็กต์ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว เช่น รูปภาพสำหรับมูดบอร์ด ตัวละครสำหรับสตอรี่บอร์ด ชุดสีสำหรับการออกแบบแบรนด์ และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งทั้งหมดนี้ได้รับการออกแบบมาให้ปลอดภัยสำหรับใช้งานเชิงพาณิชย์

All-new Adobe Express Premium รวมถึงฟีเจอร์ Text to Image และ Text Effects ที่พร้อมใช้งานในเชิงพาณิชย์ ด้วย Adobe Express Premium สมาชิก Creative Cloud สามารถเข้าถึง แก้ไข และทำงานกับครีเอทีฟแอสเซ็ทจาก Photoshop และ Illustrator ได้โดยตรง เพิ่มไฟล์แก้ไขจากแอปลงใน Express ซึ่งจะซิงค์กันระหว่างแอปต่าง ๆ อยู่เสมอ รวมทั้งสามารถอิมพอร์ตและปรับปรุง PDFs ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายใน Express โดยตรง

เปิดตัว Generative Credit

อะโดบีเปิดตัวโมเดลใหม่ที่ใช้เครดิตสำหรับ Generative AI ซึ่งครอบคลุมบริการทั้งหมด โดยมีเป้าหมายเพื่อรองรับการปรับใช้เวิร์กโฟลว์การสร้างรูปภาพที่ขับเคลื่อนด้วยโมเดล Firefly Image ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แผนบริการแบบชำระเงินของ Firefly เวอร์ชั่น Express Premium และ Creative Cloud จะประกอบด้วยการจัดสรร “fast” Generative Credits ซึ่งเป็นโทเค็นที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้ข้อความคำสั่งในการสร้างรูปภาพและเวกเตอร์ใน Photoshop, Illustrator, Express และ Firefly

หลังจากที่ใช้ Generative Credits “หมดเร็วกว่ากำหนด” สมาชิกจะยังสามารถสร้างรูปภาพ Generative AI และเอฟเฟ็กต์ข้อความได้ แต่ประสบการณ์การใช้งานจะช้าลง และหลังจากครบจำนวน Generative Credit แล้ว ลูกค้ายังสามารถซื้อชุดบริการ Generative Credit เพิ่มเติมได้ โดยอะโดบีคาดว่าจะเปิดให้ผู้ใช้สามารถซื้อ Generative Credit "fast" เพิ่มผ่านแพ็คเกจการสมัครสมาชิกได้ ในเดือนพฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป

ความน่าเชื่อถือและความโปร่งใสของคอนเทนต์ที่สร้างด้วย AI

Firefly จะประกอบด้วยหลายโมเดล ซึ่งได้รับการปรับแต่งเพื่อให้บริการลูกค้าแต่ละกลุ่มที่มีชุดทักษะและพื้นฐานทางเทคนิคที่หลากหลาย โดยรองรับรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างหลากหลาย โมเดลแรกของอะโดบีได้รับการฝึกโดยใช้รูปภาพจาก Adobe Stock ซึ่งเป็นคอนเทนต์ที่อนุญาตให้ใช้งานอย่างเปิดเผย และเป็นคอนเทนต์สาธารณะที่ลิขสิทธิ์หมดอายุ โดยมุ่งเน้นที่รูปภาพ, text effects โดยถูกออกแบบมาเพื่อสร้างคอนเทนต์ที่สามารถใช้งานในเชิงพาณิชย์ได้อย่างปลอดภัย

โมเดล Adobe Firefly ในอนาคตจะใช้ประโยชน์จากแอสเซ็ท เทคโนโลยี และข้อมูลการฝึกที่หลากหลายจากอะโดบีและองค์กรอื่น ๆ และเมื่อมีการปรับใช้โมเดลอื่น ๆ อะโดบีจะยังคงให้ความสำคัญกับ bias ที่อาจเป็นอันตรายได้

ตามค่าเริ่มต้น Firefly จะรวม Content Credentials ไว้ในทุกเนื้อหาที่สร้างขึ้นโดยใช้ Firefly เพื่อระบุว่ามีการใช้ generative AI ซึ่งนำความน่าเชื่อถือและความโปร่งใสมาสู่ดิจิทัลคอนเทนต์มากขึ้น โดย Content Credentials เป็นรายละเอียดที่สามารถตรวจสอบได้ ทำหน้าที่เป็น “ฉลากโภชนาการ” ดิจิทัล ซึ่งแสดงข้อมูลต่าง ๆ ตั้งแต่ชื่อของแอสเซ็ท วันที่สร้าง เครื่องมือที่ใช้ในการสร้าง และการแก้ไข Content Credentials ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเครื่องมือโอเพ่นซอร์สฟรีจาก Content Authenticity Initiative (CAI) โดยข้อมูลยังคงเชื่อมโยงกับคอนเทนต์นั้นๆ อยู่เสมอ ไม่ว่าจะใช้งาน เผยแพร่ หรือจัดเก็บไว้ที่ใดก็ตาม ช่วยให้ระบุแหล่งที่มาได้อย่างเหมาะสม และช่วยให้ผู้บริโภคมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับการใช้ดิจิทัลคอนเทนต์

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้