MEDICAL FAIR THAILAND 2025 ปักหมุดไทยศูนย์กลางนวัตกรรมสุขภาพโลก

เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย จับมือภาครัฐ–เอกชนไทย เตรียมเปิดเกมรุกไทยชูธงฮับเมดเทคอาเซียน ดึงทุนพันล้าน ปั้นแบรนด์สุขภาพสู่เวทีโลก

 มร. เกอร์นอท ริงลิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย กล่าวถึงงาน Medical fair  Thailand 2025หรือ MFT 2025 ว่ามีบทบาทสำคัญในการเป็นประตูเชื่อมนวัตกรรมสุขภาพภูมิภาคสู่เวทีโลก ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าและอุปกรณ์ทางการแพทย์ โรงพยาบาล งานวินิจฉัยเวชภัณฑ์ และเวชศาสตร์ฟื้นฟู ครั้งนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 11  ซึ่งจัดมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2023 และจัดมาทุก ๆ 2 ปี  ล่าสุดในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้คือประเทศไทย สงครามนวัตกรรมและการบริการสุขภาพของอาเซียนมีโรงพยาบาลชั้นนำระดับโลกและภาคเอกชนด้านสุขภาพที่แข็งแกร่งและเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ Health Tourism ระดับต้นๆ ของภูมิภาค คาดว่าจะสร้างมูลค่าประมาณ1.7 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีภายในประเทศ 2027  นอกจากนี้ยังพูดถึงการจัดงานแสดงสินค้าและนวัตกรรมทางการแพทย์ 9 งานทั่วเอเชีย ได้เชื่อมต่อผู้ประกอบการท้องถิ่นกับนวัตกรรมระดับโลกเช่น Medical fair  Asia ที่จัดขึ้นในประเทศสิงคโปร์ อินเดียและจีน

ประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในฐานะศูนย์กลางนวัตกรรมการแพทย์ของอาเซียน และงาน MEDICAL FAIR THAILAND 2025 จะเป็นกลไกหลักดึงดูดการลงทุนด้าน MedTech และ HealthTech หลักพันล้านบาท เชื่อมโยงนวัตกรรมไทยกับพันธมิตรทั่วภูมิภาค สร้างผลลัพธ์เชิงรูปธรรม และขับเคลื่อนระบบสุขภาพอาเซียนที่กำลังเผชิญจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ด้านการดูแลสุขภาพ คาดว่าภายในปี 2573 ประชากรภูมิภาคจะทะลุ 722 ล้านคน โดยมีสัดส่วนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากข้อมูล UN ESCAP ระบุว่าในปี 2593 ผู้มีอายุเกิน 60 ปีในอาเซียนจะเพิ่มเป็น 22.2% ในปี 2593 ส่งสัญญาณดีมานด์ด้านการแพทย์พุ่งสูง ตลาด MedTech ในเอเชีย–แปซิฟิก ครองสัดส่วน 30% ของโลก คาดมูลค่าแตะ 121–140 พันล้านดอลลาร์ฯ ในปี 2568  มร. เกอร์นอท ริงลิ่ง กล่าวทิ้งท้าย

งานนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่  10–12 กันยายน 2568 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา บนพั้นที่ 3 ฮอลล์   เต็มพื้นที่กว่า 20,000 ตร.ม. รวมผู้ประกอบการและสตาร์ทอัพกว่า 1,000 ราย จาก 40 ประเทศ พร้อม 20 พาวิลเลียนไทย–นานาชาติ โชว์ครบตั้งแต่เครื่องมือแพทย์ล้ำสมัย การวินิจฉัย ฟื้นฟูสุขภาพ ดิจิทัลเฮลท์ ไปจนถึงโซลูชันการผลิตขั้นสูง

4 โซน ไฮไลท์ในงาน MEDICAL FAIR THIALAND 2025 

LaunchPad Zone เปิดตัวนวัตกรรมสุขภาพใหม่ล่าสุด โดยแพลตฟอร์มนี้เปิดโอกาสให้บริษัทต่างๆได้นำเสนอนวัตกรรมและโซลูชันล้ำสมัยโดยตรงแก่กลุ่มเป้าหมายซึ่งประกอบด้วย ผู้จัดจำหน่าย ผู้ซื้อ และบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือ จุดประกายโอกาสทางธุรกิจ และเร่งเข้าสู่ตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ

Community Care Zoneโซลูชันดูแลผู้สูงอายุและสุขภาพชุมชน กว่า 100 รายการ มุ่งเน้นการแสดงนวัตกรรมที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต สนับสนุนการใช้ชีวิตอย่างอิสระ และเพิ่มประสิทธิภาพการฟื้นฟูสุขภาพ ตั้งแต่อุปกรณ์ช่วยการเคลื่อนไหวขั้นสูงและอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการ ไปจนถึงโซลูชันการดูแลแบบบูรณาการสำหรับสังคมผู้สูงอายุ

Medical Manufacturing Zoneเทคโนโลยีการผลิต–วิศวกรรมแม่นยำ 

WT | Wearable Technologies Conference เวทีถกนวัตกรรม เพื่อสุขภาพ กีฬา และการแพทย์ทางไกล  

ทิศทางของเทคโนโลยีทางการแพทย์ภายใต้มาตรฐาน HS4 การดูแลที่ยึดผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง

กระทรวงสาธารณสุข เดินหน้ามาตรฐาน HS4 ยกระดับความปลอดภัย–คุณภาพสาธารณสุขดัน HS4 ยกระดับ รพ.ไทยสู่ Medical Hub โลก
นางสาววิชิตา  ปานเนาว์ ผู้แทนกองวิศวกรรมการแพทย์ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพกระทรวงสาธารณสุข เผย ไทยเดินหน้าสู่การเป็นศูนย์กลางการแพทย์โลก (Medical Hub) ด้วย 2 พลังหลัก คือ นวัตกรรม เช่น MedTech, AI, Telemedicine และ มาตรฐานความปลอดภัย ที่สร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ป่วย  หัวใจคือ มาตรฐาน HS4 ที่ยกระดับโรงพยาบาลรัฐทั่วประเทศ ทั้งด้านการบริหารจัดการ อาคาร สิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย และคุณภาพเครื่องมือแพทย์ เพื่อให้บริการไทยได้มาตรฐานสากล รองรับทั้งคนไทยและต่างชาติ

ในงาน MEDICAL FAIR THAILAND 2025 กรมฯ เตรียมจัดสัมมนา “ผนวกนวัตกรรมและความปลอดภัย” ชี้ทิศทางเทคโนโลยีการแพทย์ภายใต้มาตรฐาน HS4 วางยุทธศาสตร์สร้างระบบสุขภาพไทยที่ ล้ำสมัยและปลอดภัยอย่างยั่งยืน

สภาอุตสาหกรรมฯ ชี้อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ไทยกำลังโตแรง ทั้งตลาดในประเทศ–ส่งออก

นายจารุเดช คุณะดิลก ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์ (MeDIC) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ปี 2568 แนวโน้มการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของไทยขยายตัวต่อเนื่อง โรงพยาบาลใหม่และการขยายพื้นที่เพื่อรองรับผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มขึ้น ขณะที่ตลาดส่งออกเครื่องมือแพทย์ โดยเฉพาะกลุ่มวัสดุสิ้นเปลืองยังคงเติบโตแข็งแกร่ง

ปี 2567 ไทยส่งออกเครื่องมือแพทย์มูลค่า 133,393 ล้านบาท ขณะที่นำเข้า 96,937 ล้านบาท ส่วนปี 2568 ช่วง ม.ค.–เม.ย. ไทยส่งออกแล้ว 42,695 ล้านบาท และนำเข้า 31,477 ล้านบาท สะท้อนถึงศักยภาพอุตสาหกรรมการแพทย์ไทยที่ยังมีช่องทางสร้างมูลค่าเพิ่มมหาศาล

MeDIC เดินหน้าปั้นอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ไทยสู่ New S-Curve หนุน Medical Hub  พร้อมสร้างพันธมิตรข้ามอุตสาหกรรม เชื่อมโยงผู้ผลิตดิจิทัลเฮลท์ สถาบันวิจัย ผู้ให้บริการทางการแพทย์ ผู้ประกอบการ และนักลงทุน เพื่อเร่งการพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์และนวัตกรรมสุขภาพไทย ก้าวสู่ “อุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ (New S-Curve)” สอดรับยุทธศาสตร์ Medical Hub ปี 2568–2577 ที่จะช่วยเพิ่ม GDP สร้างการจ้างงาน การลงทุน และลดการพึ่งพาการนำเข้า

ขณะที่ นพ.ไพบูลย์ เอกแสงศรี นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน กล่าวว่า ในปีนี้คาดการณ์ว่า ธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนไทยจะมีกลุ่มผู้ป่วยต่างชาติที่มีแนวโน้มขยายตัวสูงขึ้น 7.6% โดยประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Health Tourism) แม้ว่าจะเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ การทรานส์ฟอร์มนวัตกรรมการแพทย์ที่มาอย่างรวดเร็ว การขยายตัวของประชากรสูงวัย รวมถึงโรคอุบัติใหม่ ปัจจัยเหล่านี้จะเป็นแรงผลักดันให้โรงพยาบาลเอกชนต้องปรับกลยุทธ์และยกระดับมาตรฐานการดูแลผู้ป่วยให้ครอบคลุมทั้งคุณภาพ ความปลอดภัย ประสบการณ์บริการให้ได้มาตรฐานสากล สอดรับกับนโยบายของรัฐ ที่ได้มีการกำหนดเป้าหมายในการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจจากเศรษฐกิจสุขภาพ (Health Economy) จำนวน 690,000 ล้านบาทในปี 2568 ซึ่งคิดเป็น 3.39% ของ GDP ประเทศไทย

“โรงพยาบาลเอกชนไทยเป็นอีกกลไกทางสุขภาพที่สร้างรายได้และชื่อเสียงให้ประเทศไทยอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตามจากผลกระทบทตามภาวะเศรษฐกิจโลก ได้ส่งผลต่อเนื่องมายังกำลังซื้อและการใช้จ่ายด้านสุขภาพของชาวไทย ประกอบกับประชาชนให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสุขภาพมากขึ้นเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษา อีกทั้งพฤติกรรมของผู้มาใช้บริการโรงพยาบาลเอกชนที่คาดหวังในคุณภาพการรักษาและบริการที่คุ้มค่ามากขึ้น  ดังนั้นการส่งเสริมการลงทุนและการนำนวัตกรรมการแพทย์แบรนด์ไทยมาใช้ในโรงพยาบาลทั่วประเทศจึงเป็นสิ่งสำคัญและควรเร่งผลักดัน เพื่อยกระดับคุณภาพการรักษา และขยายโอกาสให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง ตลอดจนลดการพึ่งพานำเข้าของนวัตกรรม อุปกรณ์และเครื่องมือการแพทย์ที่มีมูลค่าสูง ซึ่งจะช่วยสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับระบบสาธารณสุขไทย”      

ด้าน มร. คริส แมคควิน กรรมการผู้จัดการภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ KAOUN International ผู้จัดงาน GITEX Digi-Health & Biotech Thailand 2025 จับมือ MEDICAL FAIR THAILAND ย้ำ ไทยพร้อมเป็นฮับการแพทย์ของภูมิภาค เชื่อมผู้เล่น MedTech–HealthTech ทั่วโลก พร้อมเปิดเวทีนวัตกรรมสุขภาพ 10–12 กันยายน ณ ไบเทค บางนา ภายใต้การสนับสนุน กระทรวงสาธารณสุข งานนำเสนอ Digital Health, Biotech, AI, Telemedicine และโครงสร้างพื้นฐานโรงพยาบาล พร้อมการประชุมเชิงวิชาการ และโปรแกรมจับคู่ธุรกิจระหว่างสตาร์ทอัพ นักลงทุน และผู้นำสาธารณสุขอาเซียน ไฮไลท์คือ Supernova Pitch Competition ให้สตาร์ทอัพโชว์นวัตกรรมชิงรางวัล 10,000 ดอลลาร์ พร้อมโอกาสขยายธุรกิจสู่ระดับนานาชาติ

งานนี้จึงไม่ใช่แค่งานแสดงสินค้า แต่เป็นเวทีเชื่อมโลกนวัตกรรมสุขภาพ เปิดโอกาสการลงทุน และกำหนดอนาคตการแพทย์อาเซียนอย่างแท้จริง