จากความเจ็บปวดสู่การเคลื่อนไหวอย่างมั่นใจ: บำรุงราษฎร์ยกระดับศูนย์ข้อฯ ขั้นแอดวานซ์ ลดภาวะแทรกซ้อนเหลือ 0%สู่มาตรฐานโลก

เมื่อ “การลุกเดิน” กลายเป็นเรื่องยาก และ “อาการปวดเข่า” เป็นอุปสรรคที่กัดกินคุณภาพชีวิตของผู้คนทุกวัย โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ปัญหาโรคข้อเสื่อมไม่เพียงเป็นเรื่องของการเจ็บป่วย แต่ยังสะท้อนถึงความท้าทายของการใช้ชีวิตในสังคมที่ผู้สูงวัยมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่าในปี 2019 มีผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมทั่วโลกมากถึง 528 ล้านคน และประเทศไทยเองมีผู้ป่วยมากกว่า 6 ล้านคน แต่สิ่งที่น่าตกใจกว่าคือ 70% ของคนที่ปวดเข่าไม่ได้เข้ารับการรักษาอย่างถูกต้อง

ท่ามกลางสถานการณ์นี้ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์จึงไม่รอช้าในการยกระดับการดูแลผู้ป่วยโรคข้อเสื่อม โดยก่อตั้ง “ศูนย์ข้อเสื่อมและข้อเทียมขั้นแอดวานซ์” (Advanced Arthritis & Arthroplasty Center: AAA) ภายใต้การนำของ ศ.นพ. อารี ตนาวลี และทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง

ศ.นพ. อารี ตนาวลี แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยศาสตร์กระดูกและข้อ การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเทียม และหัวหน้าศูนย์ข้อเสื่อมและข้อเทียมขั้นแอดวานซ์ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ได้เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจว่า ปัญหาโรคข้อเข่าและข้อสะโพกเสื่อมไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในกลุ่มผู้สูงอายุเท่านั้น แต่ยังรวมถึงวัยทำงานที่มีพฤติกรรมใช้ชีวิตแบบนั่งนาน ไม่ค่อยขยับร่างกาย หรือเล่นกีฬาผิดท่า ซึ่งปัจจัยเหล่านี้อาจเร่งให้เกิดภาวะข้อเสื่อมเร็วขึ้นได้ ทำให้ปัญหาข้อเสื่อมกลายเป็นเรื่องของคนทุกวัย และหากไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกต้องตั้งแต่เนิ่น ๆ ความเสื่อมจะนำไปสู่การเคลื่อนไหวที่ติดขัด ข้อผิดรูป และส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก

เป้าหมายของศูนย์นี้ไม่ใช่แค่การรักษา “ข้อ” แต่คือการ “คืนคุณภาพชีวิต” ให้กับผู้ป่วยทุกคน ด้วยแนวคิดการดูแลใน 3 มิติที่ครอบคลุมและล้ำหน้า คือ  ทีมแพทย์เฉพาะทางและสหสาขาวิชาชีพ  /  เทคโนโลยีหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดที่เพิ่มความแม่นยำ  /  และการรักษาแบบเฉพาะบุคคล ที่ฟื้นตัวไวและลดภาวะแทรกซ้อน

นวัตกรรมเด่นของศูนย์ฯ คือการใช้เทคนิคผ่าตัดแผลเล็ก ร่วมกับการระงับปวดแบบ “Opioid-Free Anesthesia” ซึ่งช่วยให้ผู้ป่วยเจ็บน้อย ลุกเดินได้ใน 10 ชั่วโมงหลังผ่าตัด และกลับบ้านได้เร็ว โดยมีโปรแกรมฟื้นฟูอย่างชัดเจน เพื่อความมั่นใจในทุกก้าวหลังการผ่าตัด

ผศ.นพ. สีหธัช งามอุโฆษ จาก รพ.บำรุงราษฎร์ เน้นย้ำว่า เทคโนโลยีหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดข้อเทียม เป็นก้าวสำคัญในการรักษาโรคข้อเสื่อม ไม่ว่าจะเป็นข้อสะโพกหรือข้อเข่า ทั้งบางส่วนหรือทั้งหมด เพราะช่วยให้การวางตำแหน่งข้อเทียมแม่นยำ ลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน แผลเล็ก ฟื้นตัวเร็ว และขยับได้เป็นธรรมชาติมากขึ้น

ที่สำคัญ ยังผสานกับ เทคโนโลยี CT 3D ในการวางแผนก่อนผ่าตัด ทำให้แพทย์ทำงานได้เฉพาะจุด ลดการเสียเลือด ยืดอายุข้อเทียม และให้ผลลัพธ์การรักษาที่ดีกว่าในระยะยาว ทั้งวันนี้และอนาคต

ความสำเร็จล่าสุดของศูนย์ฯ คือการคว้าอันดับ 1 ในเอเชีย จากการจัดอันดับ “Asia’s Top Private Hospitals 2025” โดย Newsweek สำหรับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าและข้อสะโพก  ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการดูแลโรคข้อในระดับสากล

นอกจากนี้ ศูนย์ฯ ยังรับมือกับเคสผ่าตัดที่ซับซ้อน เช่น ผู้ป่วยที่ข้อผิดรูปแต่กำเนิด หรือเคยติดเชื้อที่ข้อ ซึ่งต้องใช้ความชำนาญและการวางแผนอย่างแม่นยำระดับสูง รวมถึงการผ่าตัดซ่อมข้อเทียมเดิม (revision surgery) ที่ต้องอาศัยประสบการณ์และทีมดูแลแบบครบวงจร

โดยโรงพยาบาลมี เป้าหมายให้ผู้ป่วย “ลุกเดินได้เองใน 3 วัน” หลังผ่าตัด แค่มีไม้เท้าหรือวอล์กเกอร์ช่วย ถือเป็นการคืนคุณภาพชีวิตแบบมีคุณภาพของจริง!  โดย นพ.สุรพจน์ เมฆนาวิน ได้ชูแนวทางดูแลผู้ป่วยข้อเสื่อมแบบ “ครบวงจรและเฉพาะบุคคล” ตั้งแต่ก่อนผ่าตัด ฟื้นฟู จนถึงติดตามผล เพื่อให้ผู้ป่วยฟื้นตัวไว ลดแผล ลดความเครียด และลดค่าใช้จ่าย

ผลลัพธ์จากการดูแลแบบองค์รวมก็เป็นเครื่องพิสูจน์ได้อย่างดี เช่น

อัตราการติดเชื้อหลังผ่าตัดต่ำเพียง 0.69% (เทียบกับ 1.03% ใน รพ.ชั้นนำสหรัฐฯ)

อัตราภาวะลิ่มเลือดอุดตันต่ำเพียง 0.40%

อัตราการกลับมาผ่าตัดซ้ำภายใน 30 วัน = 0%

และภายใน 3 วันหลังผ่าตัด ผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถลุกเดินได้ด้วยตนเอง

ศูนย์ข้อเสื่อมและข้อเทียมขั้นแอดวานซ์จึงไม่ใช่เพียงสถานที่รักษาโรคข้อ แต่คือจุดเริ่มต้นของการกลับมา “ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่” ของผู้ป่วยอีกครั้ง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:
ศูนย์ข้อเสื่อมและข้อเทียมขั้นแอดวานซ์ ชั้น 20 อาคาร A โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์   โทร. 02 011 3094 หรือ 1378