Last updated: 11 มิ.ย. 2567 | 391 จำนวนผู้เข้าชม |
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) เปิดเวทีผนึกกำลังเครือข่ายเมธีวิจัยอาวุโสและศาสตราจารย์วิจัยดีเด่น เพื่อหารือทิศทางการผลิตและพัฒนาบุคลากรวิจัยและนวัตกรรมใน 3 แผนงานที่เกี่ยวข้องกับ การพัฒนาการวิจัยขั้นแนวหน้า การเพิ่มจำนวนและพัฒนาบุคลากรวิจัยของประเทศ และการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางกำลังคนและศูนย์กลางการเรียนรู้ เพื่อการพัฒนาบุคลากรวิจัยใน 3 ประเด็น ได้แก่ งานวิจัยขั้นแนวหน้า อุตสาหกรรม และสังคมศาสตร์ ให้มีศักยภาพพร้อมรับการพัฒนาประเทศในอนาคต
ศาสตราจารย์ ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ประธานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กสว.) กล่าวว่า ความสำคัญของการสร้างและพัฒนาบุคลากรวิจัยและนวัตกรรม เพื่อให้สอดรับกับทิศทางการพัฒนาประเทศตามนโยบาย ววน. จำเป็นต้องสร้างนักวิจัยรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถและทักษะที่หลากหลาย ที่มีความพร้อมที่จะรับมือกับความท้าทายในอนาคต ตลอดจนการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของนักวิจัยที่อยู่ในระบบ ววน. ในปัจจุบัน ผ่านกลไกต่าง ๆ เช่น การสนับสนุนทุนวิจัย การอำนวยความสะดวกในการทำงานวิจัย การสร้างเครือข่ายความร่วมมือ การส่งเสริมนักวิจัยรุ่นใหม่ และการสนับสนุนโครงการวิจัยระยะยาวแบบต่อเนื่องหลายปี เป็นต้น ส่วนงบประมาณการวิจัยที่มีอยู่ประมาณ 1/3 จะเป็นงบประมาณที่ใช้ในการพัฒนากำลังพลและพัฒนางานวิจัยร่วมกับสถาบันการวิจัยอื่นๆ นอกจากนั้นยังกำหนดเป้าหมายในปีงบประมาณ 2568 เรื่องการสร้างนักวิจัยรุ่นใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่งสัดส่วนนักวิจัย 40 คนต่อประชากร 10,000 คนยังไม่เพียงพอ ในขณะเดียวกันต้องสร้างนักวิจัยที่ทำการวิจัยเรื่องใหม่ ๆ เพิ่มเติม ยกตัวอย่างเช่น นักวิจัยด้าน AI ด้านยานยนต์ไฟฟ้า และควอนตัม ทั้งนี้ เพื่อสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการสร้างสรรค์งานวิจัยและนวัตกรรมที่มีคุณภาพอันจะนำไปสู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป
ขณะที่ รองศาสตราจารย์ ดร.ปัทมาวดี โพชนุกูล ผู้อำนวยการ สกสว. กล่าวเพิ่มเติมว่า สกสว. ได้เล็งเห็นศักยภาพของเมธีวิจัยอาวุโสและศาสตราจารย์วิจัยดีเด่น ซึ่งถือเป็นกลุ่มนักวิจัยชั้นนำที่มีผลงานโดดเด่นเป็นที่ยอมรับทั้งในระดับชาติและนานาชาติ อีกทั้งเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาทีมและบ่มเพาะนักวิจัยรุ่นใหม่ จึงเป็นที่มาของการจัดประชุมครั้งนี้ เพื่อร่วมออกแบบกรอบทิศทางการผลิตและพัฒนาบุคลการวิจัยและนวัตกรรมให้สอดคล้องกับแผนด้าน ววน. พ.ศ. 2566-2570 ของประเทศ ประกอบด้วย 1. การวิจัยขั้นแนวหน้าที่สร้างองค์ความรู้ใหม่ด้านวิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศิลปกรรมศาสตร์ รวมถึงการประยุกต์ใช้และพัฒนาต่อยอดสู่เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมขั้นแนวหน้า 2. การยกระดับการผลิตและพัฒนาบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์และนวัตกรที่มีทักษะสูงให้มีจำนวนมากขึ้น 3. การพัฒนาการเป็นศูนย์กลางกำลังคนทักษะสูงที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และศูนย์กลางการเรียนรู้ที่มีความร่วมมือด้านการวิจัยการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมของสถาบันหรือศูนย์วิจัยกับเครือข่ายระดับนานาชาติอย่างเข้มแข็งในวงกว้าง
การประชุมครั้งนี้ สกสว. มุ่งหวังที่จะผนึกกำลังจากนักวิจัยระดับแนวหน้าของไทยในการร่วมกำหนดโจทย์การวิจัยและนวัตกรรมเพื่อรับมือความท้าทายในอนาคต และต่อยอดผลงานวิจัยออกสู่การใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ อย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น ตลอดจนร่วมระดมความคิดเห็นในการพัฒนาศักยภาพนักวิจัยรุ่นใหม่ให้พร้อมสำหรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศด้วยq ววน. ทั้งการวิจัยพื้นฐานและขั้นแนวหน้าด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ด้านมนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และศิลปกรรมศาสตร์ ตลอดจนการวิจัยเพื่อรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ นอกจากนี้ สกสว. ยังมีแผนที่จะจัดเวทีประชุมร่วมกับกลุ่มนักวิจัยรุ่นใหม่ในโอกาสถัดไป เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางการวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ โดยข้อเสนอแนะจากการประชุมจะถูกนำไปใช้ในการวางแผนบุคลากรวิจัยและนวัตกรรมของประเทศในระยะยาวต่อไป