Last updated: 19 ต.ค. 2566 | 1739 จำนวนผู้เข้าชม |
ในขณะที่คนไทยจำนวนไม่น้อยยอมเก็บหอมรอมริบเพื่อทำตามความใฝ่ฝันที่จะเดินทางไปเสริมความงามที่ต่างประเทศ แต่หารู้ไม่ว่าชาวต่างประเทศกลับมีความใฝ่ฝันที่จะเดินทางมาเสริมความงามที่ประเทศไทย ด้วยเชื่อมั่นในศักยภาพของแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ
อย่างไรก็ดี วิทยาการแห่งการเสริมความงามที่ยั่งยืน จะต้องพัฒนาควบคู่ไปกับศักยภาพของการทำ "หัตถการเพื่อการรักษา" มหาวิทยาลัยมหิดล โดย ภาควิชาตจวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล นับเป็นแห่งแรกของประเทศไทยที่พร้อมเปิดหลักสูตรปริญญาเอกนานาชาติ ตจศัลยศาสตร์ (ศัลยกรรมผิวหนัง) ครบวงจรสู่ความเป็นเลิศในระดับโลก เพิ่มเติมจากหลักสูตรปริญญาโทที่ได้เปิดรับนักศึกษาไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งนับตั้งแต่ได้มีการเปิดหลักสูตรปริญญาโทตจศัลยศาสตร์ (นานาชาติ) ขึ้นที่ ภาควิชาตจวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้รับความสนใจจากผู้เรียน โดยมีนักศึกษาไทยและต่างชาติในอัตราส่วนครึ่งถึงครึ่งต่อครึ่ง
ศาสตราจารย์ ดร. แพทย์หญิงรังสิมา วณิชภักดีเดชา ประธานหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาตจศัลยศาสตร์ (นานาชาติ) ภาควิชาตจวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้เปิดเผยถึงการเปิดหลักสูตรปริญญาเอก เพื่อผลิตตจศัลยแพทย์ครบวงจรระดับโลกครั้งแรก เกิดขึ้นเนื่องจากชื่อเสียงของศิริราช ในฐานะโรงพยาบาลและโรงเรียนแพทย์ที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของประเทศไทย ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 135 ปี
เหตุที่มหาวิทยาลัยมหิดล โดย ภาควิชาตจวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล สามารถยกระดับวิชาการด้านการผลิตตจศัลยแพทย์ผิวหนังครบวงจรถึงหลักสูตรระดับปริญญาเอก เนื่องจากมีความพร้อมทั้งทางด้านคณาจารย์ที่จบการศึกษาและผ่านการฝึกอบรมมาจากสถาบันระดับโลก และมีผลงานทางวิชาการที่โดดเด่นทั้งทางด้านการทำหัตถการทางผิวหนัง เพื่อการรักษาและเพื่อความงาม โดยมีผลงานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการนานาชาติมากถึง 10 เรื่องต่อปี
จุดเด่นของหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาตจศัลยศาสตร์ (นานาชาติ) ภาควิชาตจวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล อยู่ที่การออกแบบให้เป็นไปตามแนวโน้มการศึกษาโลกที่มีความยืดหยุ่น มีทางเลือกหลากหลาย ทั้งการเรียนและการฝึกอบรมที่ภาควิชาตจวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล และการเรียนตามอัธยาศัยผ่านระบบออนไลน์ในภาคทฤษฎี พร้อมเปิดโอกาสให้เก็บหน่วยกิตในภาคปฏิบัติตามเป้าหมายที่วางไว้ของผู้เรียนแต่ละราย ซึ่งตอบโจทย์วิกฤติทางการศึกษาต่อของบัณฑิตแพทย์ไทยในปัจจุบัน ที่ในแต่ละปีมีบัณฑิตแพทย์ต้องการเรียนต่อด้านผิวหนัง และหัตถการทางผิวหนังเป็นจำนวนมาก แต่ยังหาที่เรียนไม่ได้
นอกจากนี้ การเปิดหลักสูตรปริญญาเอก จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับการประกอบการทำหัตถการทางผิวหนังเพื่อการรักษา และความงามของประเทศไทย ให้เกิดการยกระดับทางเศรษฐกิจ สร้างเม็ดเงินเข้าประเทศได้มากขึ้น และนำพาประเทศไทยสู่ความเป็นเลิศในระดับโลกที่สร้างพลังดึงดูดได้ไม่แพ้กัน
ติดตามข่าวสารที่น่าสนใจจากมหาวิทยาลัยมหิดลได้ที่ www.mahidol.ac.th